อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
อิมินา สักกาเรนะ สังฆัง อะภิปูชะยามิ
อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา, พระผู้มีพระภาคเจ้า, เป็นพระอรหันต์, ดับเพลิงกิเลสเพลิงทุกข์สิ้นเชิง, ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง.
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ. ข้าพเจ้าอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า, ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน.
ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, พระธรรม เป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า, ตรัสไว้ดีแล้ว;
ธัมมัง นะมัสสามิ. ข้าพเจ้านมัสการพระธรรม.
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, พระสงฆ์สาวกของพระผู้มี พระภาคเจ้า, ปฏิบัติดีแล้ว.
สังฆัง นะมามิ. ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์.
*นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น
อะระหะโต ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส
สัมมาสัมพุทธัสสะ ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง (*๓ จบ)
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
ส๎วากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิ-ปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนย โย ปาหุเนย โย ทักขิเณย โย อัญชะลีกะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ
พุทธปฐมสักการะ
(นำ) อิติปิโสภควา
(รับพร้อมกัน) ® ข้าฯขอน้อมสักการบูชา สมเด็จปฐมบรมศาสดา*
พรหมโลกานันไตศวรรย์
ปู่ใหญ่พรหมโลกทุกปางบรรพ์ องค์ปฐมทุกๆพระนาม
ด้วยจิตเลื่อมใสยินดี
พระพุทธเจ้าทั้งหมื่นโลกธาตุปฐพี แสนโกฏทวี
ทั่วทั้งอนันตจักรวาล
พระปัจเจกพระโพธิสัตว์นับล้าน หมื่นแสนปณิธาน
การุณส่ำสัตว์ด้วยจิตเมตตา
พระธรรมคือรัตนแห่งปัญญา อริยสัจจา
นำพาข้ามพ้นทุกข์ภัย
พุทธบริษัทหมดสิ้นสงสัย ศรัทธาเลื่อมใส
เจริญในมรรคผล และนิพพาน
ขอเดชะสัพพัญญุตญาณ โพธิจิตเบิกบาน
เกิดขึ้นในดวงกมล
บุญกุศลยิ่งใหญ่ส่งผล สิริมงคล
ด้วยพุทธเมตตาบารมี
เรืองรองด้วยฉัพพรรณรังสี ทศบารมี
อณูอินทรีย์หมดสิ้นอวิชชา
ข้ามพ้นโอฆะด้วยนาวา ทานศีลภาวนา
ญาณปัญญารู้แจ้งโดยพลัน
ขอบุญฤทธิ์ปาฏิหาริย์อัศจรรย์ สัจจาธิษฐานคงมั่น
เจริญตามรอยบาทพระศาสดา (ซ้ำ ®)
ต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธปฐมบรมศาสดา**ขอพระธรรมล้ำค่า
จงสำเร็จเร็ววันฉับพลันเทอญ
หมายเหตุ *อ่านว่า บอ-รม-สาด-สะ-ดา
**โดยทั่วไปกล่าวคำว่า “พระพุทธปฐมบรมศาสดา*”
พระพุทธเมตตา กล่าวคำว่า “พระพุทธเมตตา”
พระพุทธฉาย กล่าวคำว่า “พระพุทธฉายา”
(นำ) องค์ใดพระสัมพุทธ (รับพร้อมกัน) สุวิสุทธสันดาน
ตัดมูลเกลศมาร บ มิหม่น มิหมองมัว
หนึ่งในพระทัยท่าน ก็เบิกบานคือดอกบัว
ราคี บ พันพัว สุวคนธ กำจร
องค์ใดประกอบด้วย พระกรุณาดังสาคร
โปรดหมู่ประชากร มละโอฆกันดาร
ชี้ทางบรรเทาทุกข์ และชี้สุขเกษมสานต์
ชี้ทางพระนฤพาน อันพ้นโศกวิโยคภัย
พร้อมเบญจพิธจัก ษุจรัสวิมลใส
เห็นเหตุที่ใกล้ไกล ก็เจนจบประจักษ์จริง
กำจัดน้ำใจหยาบ สันดานบาปแห่งชายหญิง
สัตว์โลกได้พึ่งพิง มละบาปบำเพ็ญบุญ
ข้าฯขอประณตน้อม ศิรเกล้าบังคมคุณ
สัมพุทธการุญ ญภาพนั้นนิรันดรฯ
(กราบ)
(นำ)ธรรมะคือคุณากร (รับพร้อมกัน) ส่วนชอบสาธร
ดุจดวงประทีปชัชวาล แห่งองค์พระศาสดาจารย์
ส่องสัตว์สันดาน สว่างกระจ่างใจมล
ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล
และเก้ากับทั้งนฤพาน สมญาโลกอุดรพิสดาร
อันลึกโอฬาร พิสุทธิ์พิเศษสุกใส
อีกธรรมต้นทางครรไล นามขนานขานไข
ปฏิบัติปริยัติเป็นสอง คือทางดำเนินดุจคลอง
ให้ล่วงลุปอง ยังโลกอุดรโดยตรง
ข้าฯขอโอนอ่อนอุตมงค์ นบธรรมจำนง
ด้วยจิตและกายวาจา
(กราบ)
(นำ)สงฆ์ใดสาวกศาสดา (รับพร้อมกัน) รับปฏิบัติมา
แต่องค์สมเด็จภควันต์ เห็นแจ้งจตุสัจเสร็จบรร
ลุทางที่อัน ระงับและดับทุกข์ภัย
โดยเสด็จพระผู้ตรัสไตร ปัญญาผ่องใส
สะอาดและปราศมัวหมอง เหินห่างทางข้าศึกปอง
บ มิลำพอง ด้วยกายและวาจาใจ
เป็นเนื้อนาบุญอันไพ ศาลแด่โลกัย
และเกิดพิบูลย์พูนผล สมญาเอารสทศพล
มีคุณอนนต์ อเนกจะนับเหลือตรา
ข้าฯขอนบหมู่พระศรา พกทรงคุณา
นุคุณประดุจรำพัน ด้วยเดชบุญข้าฯอภิวันท์
พระไตรรัตน์อัน อุดมดิเรกนิรัติสัย
จงช่วยขจัดโพยภัย อันตรายใดใด
จงดับและกลับเสื่อมสูญ
(กราบ)
(นำ)ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุท (รับพร้อมกัน) ธะวิสุทธะศาสดา
ตรัสรู้อนุตตะระสมา ธิ ณ โพธิบัลลังก์
ขุนมารสหัสสะพหุพา หุวิชาวิชิตขลัง
ขี่คีริเมขละประทัง คชะเหี้ยมกระเหิมหาญ
แสร้งเสกสราวุธะประดิษฐ์ กละคิดจะรอนราญ
รุมพลพหลพยุหปาน พระสมุททะนองมา
หวังเพื่อผจญวรมุนิน ทะสุชินะราชา
พระปราบพหลพยุหะมา ระมะเลืองมะลายสูญ
ด้วยเดชะองค์พระทศพล สุวิมละไพบูลย์
ทานาทิธรรมะวิธิกูล ชนะน้อมมโนตาม
ด้วยเดชะสัจจะวะจะนา และนะมามิองค์สาม
ขอจงนิกรพละสยาม ชยะสิทธิทุกวาร
ถึงแม้จะมีอริวิเศษ พละเดชะเทียมมาร
ขอไทยผจญพิชิตะผลาญ อริแม้นมุนินทร.
(กราบ)
อิมัส๎มิงมงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้ว ทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่วอนัตตา ราชะ เสมานาเขตเต
ส๎มันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ พุทธะ*ชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ
* สวดรอบที่ ๒ เปลี่ยนเป็น ธัมมะ
สวดรอบที่ ๓ เปลี่ยนเป็น ปัจเจกะพุทธะ
สวดรอบที่ ๔ เปลี่ยนเป็น สังฆะ
ทานะ**ปาระมี สัมปันโน ทานะ**อุปะปาระมี สัมปันโน ทานะ**
ปะระมัตถะปาระมี สัมปันโน เมตตา ไมตรี กรุณา มุทิตา อุเบกขา ปาระมี สัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา
** สวดรอบต่อๆไป เปลี่ยนเป็น สีละ, เนกขัมมะ, ปัญญา, วิริยะ, ขันติ, สัจจะ, อธิฏฐานะ, เมตตา, อุเปกขา, ทะสะ ตามลำดับ
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ นะมามิหังฯ
บูระพา*รัส๎มิง พระพุทธะคุณัง บูระพา*รัส๎มิง พระธัมเมตัง บูระพา* รัส๎มิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะธะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม รักขันตุ สุรักขันตุ
* สวดรอบต่อๆไป เปลี่ยนเป็น อาคะเนย์, ทักษิณ,หรดี, ปัจจิม, พายัพ, อุดร, อิสาน, อากาศ, ปฐวี ตามลำดับ
พาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง¨ครีเมขะลัง อุทิตะโฆระสะเสนะมารัง¨ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง¨โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง¨ขันตี สุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง¨ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง¨เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง¨ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมา ละวันตัง¨อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
กัต๎วานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา¨จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะนะกายะมัชเฌ¨ สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกะวาทะเกตุง¨วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง¨ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง¨ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต¨อิทธู ปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง¨พ๎รัห๎มัง วิสุทธิชุติมิทธิ พะกาภิธานัง¨ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท¨ตันเตชะสา ภะวะตุ เม ชะยะมังคะลานิ
เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฏฐะคาถา¨โย วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที¨หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ¨โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ
มะหาการุณิโก นาโถ¨หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรต๎วา ปาระมี สัพพา¨ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง¨เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ¨โหตุ เม ชะยะมังคะลัง
ชะยันโต โพธิยา มูเล¨สัก๎ยานัง นันทิวัฑฒะโน¨เอวัง อ๎หัง วิชะโย โหมิ¨ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล¨อะปะราชิตะปัลลังเก¨สีเส ปะฐะวิโปกขะเร¨อะภิเสเก สัพพะพุทธานัง¨ อัคคัปปัตโต ปะโมทะติ¨สุนักขัตตัง สุมังคะลัง¨สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง¨สุขะโณ สุมุหุตโต จะ¨ สุยิฏฐัง พ๎รัห๎มะ จาริสุ¨ปะทักขิณัง กายะกัมมัง¨วาจากัมมัง ปะทักขิณัง¨ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง¨ปะณิธี เต ปะทักขิณา¨ปะทักขิณานิ กัต๎วานะ¨ละภันตัตเถ ปะทักขิเณ
ยา เทวะตา สันติ วิหาระวาสินี¨ถูเป ฆะเร โพธิฆะเร ตะหิง ตะหิง¨ ตา ธัมมะทาเนนะ ภะวันตุ ปูชิตา¨โสตถิง กะโรนเตธะ วิหาระมัณฑะเล¨เถรา จะ มัชฌา นะวะกา จะ ภิกขะโว¨สารามิกา ทานะปะตี อุปาสะกา¨คามา จะ เทสา นิคะมา จะ อิสสะรา¨สัปปาณะภูตา สุขิตา ภะวันตุ เต¨ ชะลาพุชา เยปิ จะ อัณฑะสัมภะวา¨สังเสทะชาตา อะถะโวปะปาติกา¨ นิยยานิกัง ธัมมะวะรัง ปะฏิจจะ เต¨สัพเพปิ ทุกขัสสะ กะโรนตุ สังขะยัง¨ ฐาตุ จิรัง สะตัง ธัมโม ธัมมัทธะรา จะ ปุคคะลา¨สังโฆ โหตุ สะมัคโค วะ อัตถายะ จะ หิตายะ จะ¨อัมเห รักขะตุ สัทธัมโม สัพเพปิ ธัมมะจาริโน¨วุฑฒิง สัมปาปุเณยยามะ ธัมเม อะริยัปปะเวทิเต.
สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ พุทธะระตะนัง ธัมมะระตะนัง สังฆะระตะนัง ติณณัง ระตะนานัง อานุ ภาเวนะ จะตุราสีติสะหัสสะธัมมักขันธานุภาเวนะ ปิฏะกัตต๎ยานุภาเวนะ ชินะสาวะกานุภาเวนะ สัพเพ เต โรคา สัพเพ เต ภะยา สัพเพ เต อันตะรายา สัพเพ เต อุปัททะวา สัพเพ เต ทุนนิมิตตา สัพเพ เต อะวะมังคะลา วินัสสันตุ อายุวัฑฒะโก ธะนะวัฑฒะโก สิริวัฑฒะโก ยะสะวัฑฒะโก พะละวัฑฒะโก วัณณะวัฑฒะโก สุขะวัฑฒะโก โหตุ สัพพะทา
ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสกา สันตุ จุปัททะวา อะเนกา อันตะรายาปิ
วินัสสันตุ จะ เตชะสา ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง โสตถิ ภาค๎ยัง สุขัง พะลัง
สิริ อายุ จะ วัณโณ จะ โภคัง วุฑฒี จะ ยะสะวา สะตะวัสสา จะ อายู จะ ชีวะสิทธี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
แผ่เมตตาให้ตนเอง
อะหัง สุขิโต โหมิ นิททุกโข โหมิ
อะเวโร โหมิ อัพยาปัชโฌ โหมิ
อนีโฆ โหมิ สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ
ขอให้ข้าพเจ้า จงมีความสุขกายสุขใจ
รักษาตนของตน ให้พ้นจากทุกข์ภัย
อยู่เป็นสุข เป็นสุข ไม่มีทุกข์เทอญ...
คำแผ่เมตตา อภิณหะปัจจะเวก
สัพเพ สัตตา... อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ... ขอจงอย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ...ขอจงอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ... ขอจงพากันอยู่เป็นสุข อย่ามีทุกข์เลย
สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ... ขอจงรักษาตนของตนให้เป็นสุขเถิด
สัพเพ สัตตา... อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
กัมมะทุกขา ปะมุญจันตุ...ขอจงได้มีความพ้นทุกข์เถิด
ชะรา ธัมมาหิ... เราไม่ล่วงพ้นความแก่ชราไปได้
พยาธิ ธัมมาหิ... เราไม่ล่วงพ้นความเจ็บไข้ไปได้
มรณา ธัมมาหิ... เราไม่ล่วงพ้นความตายไปได้
สัพเพ สัตตา... อันว่าสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
กัมมัสสะกา... มีกรรมเป็นของตัว
กัมมะทายาทา... มีกรรมเป็นมรดก
กัมมะโยนิ... มีกรรมเป็นกำเนิด
กัมมะพันธุ... มีกรรมเป็นพวกพ้อง
กัมมะปะฏิสะระณา...มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย
ยังกัมมังกะริสสามิ...ได้ทำกรรมอันใดไว้
กัลลยานัง วา... ดีก็ตาม
ปาปะกัง วา... ชั่วก็ตาม
ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ... เขาทั้งหลายเหล่านั้นจะได้รับผลกรรมนั้นแล...
คำขอขมาพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะฯ (๓ จบ)
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต อุกาสะ ท๎วารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต อุกาสะ ขะมามะ ภันเตฯ
หากข้าพเจ้าทั้งหลาย ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกายหรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนาหรือไม่มีเจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษงดโทษให้แก่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วยเทอญ.
คำถอนมิจฉาทิฏฐิอธิษฐาน
อิมัง มิจฉา อธิษฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ทุติยัมปิ อิมัง มิจฉา อธิษฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ตติยัมปิ อิมัง มิจฉา อธิษฐานัง ปัจจุทธะรามิ
ข้าพเจ้าขอถอนคำมิจฉาธิษฐาน ถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ถอนคำสบถสาบาน ด่าว่า กล่าวคำหยาบคาย ใส่ร้ายป้ายสี ด้วยวจีทุจริตต่างๆ เพราะขาดสติ เต็มไปด้วยโทสะ โกรธแค้น พยาบาท โมหะ หลงผิด เห็นแก่ตัว ขาดความเมตตา โลภะ โลภโมโทสัน เบียดเบียนสร้างเวรสร้างกรรม ยกตนข่มท่าน ใช้วาจาทิ่มแทงผู้อื่นด้วยมานะและมิจฉาทิฏฐิ เป็นอกุศลกรรม ไม่ประกอบด้วยปัญญา ไม่ประกอบด้วยบารมี ทำให้คุณงามความดีด่างพร้อย มัวหมอง ตั้งแต่อดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ขอถอนทั้งหมดทั้งสิ้น
ข้าพเจ้าขออัญเชิญพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย เทวดาทั้งหลายทั้งปวง และพระยายมราช มาเป็นสักขีพยาน ว่าข้าพเจ้าขอถอนคำอธิษฐาน ขอถอนคำสาป ถอนคำแช่ง ถอนคำสบถสาบาน รวมถึงการด่าว่า คำหยาบคาย ใส่ร้ายป้ายสี ด้วยวจีทุจริตต่างๆเหล่านั้น ร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง แสนครั้ง ล้านๆครั้งณ กาลบัดเดี๋ยวนี้...เทอญ
นะถอน โมถอน พุทถอน ธาถอน ยะถอน
นะคลอน โมคลอน พุทคลอน ธาคลอน ยะคลอน
ถอนด้วยนะโมพุทธายะ
ข้าพเจ้าขอยกโทษ อโหสิกรรม และให้อภัยในความบกพร่อง ความผิดพลาดของสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ทุกชีวิต ทุกจิตวิญญาณ ทุกที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อเทอญ......
คำอธิษฐานบารมี
ข้าพเจ้าขออัญเชิญสมเด็จพระพุทธปฐมบรมศาสดาไว้เหนือเศียรเกล้า อาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทั้งหมื่นโลกธาตุแสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล มาคลุมครอบ คุ้มครองรอบตัวข้าพเจ้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลาย-เท้า มิให้ช่องแก่หมู่มารและศัตรูภัยพาลทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอเข้าถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดชีวิต มีจิตยินดีปรีดาต่อ ทาน ศีล ภาวนา ไตรสิกขา ครบถ้วน
ขอกายสุจริต วาจาสุจริต และใจสุจริต บริสุทธิ์หมดจด นับแต่บัดนี้ เป็นต้นไป หากแม้นยังต้องเวียนว่าย ขอให้เกิดในปฏิรูปเทศ ใต้ร่มเงาพระพุทธศาสนา ในครอบครัววงศ์ตระกูลสัมมาทิฏฐิ มีข้าทาสบริวารซื่อสัตย์-ภักดี โภคทรัพย์ผลทวีบริบูรณ์ สุขภาพจิต สุขภาพกายแข็งแรงสมบูรณ์ สติปัญญาไหวพริบปฏิภาณฉลาดล้ำเลิศ พบแต่กัลยาณมิตรและบัณฑิตผู้ชี้ทางสว่าง ได้ฟังธรรมจากสัตบุรุษผู้เปี่ยมไปด้วยปัญญา ได้สร้างทานบารมีกับพระอริยบุคคลผู้เป็นนาบุญอันไพบูลย์ เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ไม่หวั่นไหวต่อโลกธรรมทั้ง ๘ ปราศจากธุลีกิเลสและเครื่องเศร้าหมอง
ขอบุญวาสนาและบารมีในอดีตชาติมาเกื้อหนุนโดยเร็วพลัน ถึงพร้อมด้วยโอกาสและปัจจัยต่อการประพฤติปฏิบัติธรรม อัธยาศัยและอุปนิสัยตามส่ง ปลอดโปร่งจากอุปสรรคขัดขวางโดยสิ้นเชิง
ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้แล้ว ขอให้ข้าพเจ้ามีส่วนในธรรมนั้น ขอความไม่มีอย่าได้บังเกิด ขอความปรารถนาอันเลิศจงสำเร็จสัมฤทธิผล มีดวงตาเห็นธรรม เจริญตามรอยบาทพระศาสดา และบรรลุ มรรค ผล นิพพาน ในเร็ววันเทอญ (อิมัง สัจจะ วาจัง อธิษฐานมิ)
หยาดธรณี
อิมินากตปุญเญนะ ขอน้ำทิพย์อันบริสุทธิ์ดุจคงคาสวรรค์ ด้วยความตั้งใจมั่น ในบุญกิริยาแห่งทาน ศีล ภาวนา เมตตาบารมี ที่บำเพ็ญแล้วในวันนี้ เป็นกุศล อันแรงกล้าหาประมาณมิได้ ขอให้ถึงแก่ท่านทั้งหลาย ตั้งแต่ พรหมโลก ลงมา เทวโลก มนุษย์โลก ปฐพีบาดาล อบายภูมิทั้ง ๔ และอเวจีมหานรกเป็นที่สุด ผู้มีภพมีภูมิ มีจิตมีวิญญาณ มีขันธสันดาน มีวิบากแห่งกรรม เจ้ากรรมนายเวร เจ้าการบัญชี สัมภเวสีและหมู่มาร บรรพบุรุษและหมู่ญาติที่ล่วงลับดับสังขารไปแล้ว ที่อยู่นอกตัวก็ดี อยู่ในตัวก็ดี ที่แทรกสิงในธาตุ ๔ ขันธ์ ๕ องคาพยพอยู่ก็ดี ติดตามมาด้วยความอาฆาตพยาบาท จองเวร ให้ทุกข์ให้โทษ ทวงบุญทวงคุณ ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันวันนี้
ณ บัดนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายจงได้อนุโมทนาสาธุการ ในกองทาน การกุศล ในผลแห่งบุญ คุณงามความดี และความเมตตาร่มเย็น ท่านใด ที่มีทุกข์ ขอให้สิ้นทุกข์ ท่านใดที่มีสุขขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป กรรมอันใดที่ล่วงเกินด้วย กาย วาจา ใจ ด้วยเจตนา หรือไม่เจตนา จงให้อภัยและอโหสิกรรมต่อกัน ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ข้าพเจ้าทั้งหลายขอดื่มน้ำทิพย์คงคาสวรรค์ ประหนึ่งพระธรรมอันชุ่มเย็น เพื่อชำระกาย ใจ ให้บริสุทธิ์ สะอาด และขอหยาดลงสู่ภิภพธรณี เพื่อเป็นพยานสักขี อุทิศพลีแก่ทุกท่านทุกคน ดังเจตจำนงมุ่งหมายที่ตั้งไว้ทุกประการ เทอญ...สาธุ...
(กล่าวตามผู้นำ) พุทธัง อนุโมทนานัง
ธัมมัง อนุโมทนานัง
สังฆัง อนุโมทนานัง
นิพพานะปัจโยโหตุ
อุทิศผลบุญ
อิมินาปุญญะกัมเมนะ อัปมาโณปุญโญ
ขอกุศลผลบุญแห่งการ “_______________” ในครั้งนี้ ไม่ประมาณ
ขอให้ค้ำชูเกื้อหนุนคุณบิดามารดา พระมหากษัตริย์ ผู้มีพระคุณ ญาติกา ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ พี่น้องสนิท(สายโลหิต) มิตรรักสหาย สาราสัตว์น้อยใหญ่ เจ้ากรรมนายเวร เจ้าการบัญชี เจ้าที่เจ้าทาง เทพเทวาอารักษ์ ภูมเทวดา เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระยายมราช นายนิรยบาล ท้าวจตุโลกบาลทั้ง๔ ศิริพุทธอำมาตย์ ตั้งแต่ชั้นจาตุมหาราชิกาเบื้องบน สูงสุดจนถึงภวัคพรหม เบื้องล่างต่ำสุดตั้งแต่โลกันต-มหานรกและอเวจีขึ้นมา จนถึงโลกมนุษย์ สุดรอบขอบจักรวาล อนันต-จักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เทพเทวาทั้งหลาย อินทร์ พรหม ยม ยักษ์ คนธรรพ์ นาคา พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ ท่านทั้งหลาย ที่ต้องทุกข์ ขอให้พ้นจากความทุกข์ ท่านทั้งหลายที่มีสุข ขอให้สุขนั้นยิ่งๆขึ้นไป
ด้วยเดชะกุศลผลบุญที่ข้าพเจ้าอุทิศไปนี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัย ให้ถึงแก่พระนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้เทอญ...
พุทธัง อนันตัง ธัมมัง จักกะวาลัง สังฆัง นิพพานัง ปัจจะโย โหตุ