สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทัวร์มหาบารมี ปีใหม่ 2557 อิสราเอล-จอร์แดน

ทัวร์มหาบารมี ปีใหม่ 2557

ณ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เยรูซาเล็ม

จอร์แดน & HOLY LAND อิสราเอล

7 วัน 4 คืน

ออกเดินทางเย็นวันที่ 28 ธ.ค. 56 - 3 ม.ค. 57

ท่านละ 66,500 บาท

รวมทิปไกด์ - คนขับรถ - หัวหน้าทัวร์ - ทิปม้า - ทิปลาแล้ว

บุญมิตรผู้ร่วมเดินทางทัวร์มหาบารมี

กรุณานำเล่ม passport ที่มีอายุการใช้งานเหลือเกิน 6 เดือน

(นับจากวันเดินทางกลับ)และมีหน้าว่างเหลืออย่างน้อย 3 หน้า

พร้อมทั้งแนบคำตอบ 2 ข้อ คือ 1. ประกอบอาชีพอะไร

และ 2. ภายในเวลา 3-5 ปี เคยเดินทางไปประเทศใดบ้าง

เขียนใส่กระดาษแนบมากับ passport

ส่งให้ที่ฤดี ภายในวันพุธที่ 20 พ.ย. 56 เพื่อขอวีซ่าค่ะ 

หากไม่สะดวก สามารถถ่ายสำเนา fax หรือ email passport

บุญมิตรท่านใด ยังไม่ได้ส่ง passport เล่มจริง

สามารถส่งได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค. 56 ค่ะ 

โอนมัดจำค่าทัวร์ รอบที่ 1 จำนวน 10,000 บาท ภายในวันพุธที่ 20 พ.ย. 56 ค่ะ

โอนค่าทัวร์ รอบสุดท้าย จำนวน 56,500 บาท

ภายในวันพุธที่ 11 ธ.ค. 56 ค่ะ

โดยโอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย สาขามีนบุรี ออมทรัพย์

เลขที่ 094-2-19458-9 ชื่อบุญชี ภัทรฤดี กิติวรรณกุล

เมื่อโอนแล้วรบกวนโทรหรือไลน์แจ้งด้วยค่ะ

รายนามผู้ร่วมเดินทาง

1 คุณ ประทีป ยอดวศิน
2 คุณ ประเทือง ยอดวศิน
3 คุณ ขาฮุ้ง แซ่แต้
4 คุณ ณัฐกฤตา ยอดวศิน
5 คุณ สุธิดา สมประกิจ
6 คุณ นวรัตน์ อ่วมใจอ่อน
7 คุณ ภัทรฤดี กิติวรรณกุล
8 คุณ พิมวณัช ตรีสุคนธ์
9 คุณ จตุพร เอี่มสอาด
10 คุณ กฤตภพ เอื้อฤาชา
11 คุณ ธนวรรธน์  ศุภราภรณ์
12 คุณ ฉวีวรรณ หล่อประดิษฐ์ชัย
13 คุณ จริวัฒน์ หล่อประดิษฐ์ชัย
14 คุณ พิทยา แสงแผ้ว
15 คุณ กิ่งแก้ว  แสงแผ้ว
16 คุณ ยศวัฒน์  แสงแผ้ว
17 คุณ ปกรณ์ศักดิ์ วัชรากร
18 คุณ นราภรณ์  วัชรากร
19 คุณ นุชนาฏ  อมรทิพย์รัตน์
20 คุณ อมรชัย อมรทิพย์รัตน์
21 คุณ อันธิกา พวงจำปี
22 คุณ วราภรณ์ เนียมศรี
23 คุณ พรทวี คงพูนเกษมสุข
24 คุณ แสงเดือน คงพูนเกษมสุข
25 คุณ อุไรวรรณ แซ่ไล่
26 คุณ จุรินทร์ หล่อประดิษฐ์ชัย
27 คุณ จตุรพร ชัยนภาพร
28 คุณ สิริมา  พุทธามุงคล
29 คุณ พัชรดา ปานวัชราคม

สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมได้ คลิก

 หมายเหตุโปรแกรมดังกล่าวยังไม่เรียบร้อยในเรื่องรายละเอียดค่าทิปต่างๆ 


***** จุดเด่นน่าสนใจของรายการท่องเที่ยว*****

  • Ø เพตร้า มหานครศิลาทรายสีชมพูหรือนครสีดอกกุหลาบ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกใหม่
  • Ø ทะเล เดดซี  ทะเลในฝันของใครหลายคนที่ครั้งหนึ่งต้องการมาทดลองว่า “ ลอยตัว ได้จริง
  • Ø นครกรีก-โรมันเจอราช ฉายา “เมืองพันเสา” อดีต1 ใน 10 หัวเมืองเอกอันยิ่งใหญ่
  • Ø เยรูซาเล็ม เดินแดนแห่งแหล่งกำหนดศาสนา
  • Ø กำแพงแห่งการร้องไห้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวที่ยังหลงเหลืออยู่
  • Ø เมืองเทลอาวีฟ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในอิสราเอล เมืองศูนย์กลางการ พาณิชย์ การท่องเที่ยว
  • Ø เมืองเบธเลเฮ็ม ดินแดนที่ครอบครองโดยปาเลสไตน์

วันที่หนึ่ง/28 ธ.ค

             สนามบินสุวรรณภูมิ

-/-/-

       22.00 น.      U คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เคาน์เตอร์สายการบิน โรยัล จอร์แดนเนียล ชั้น 4  แถว ประตู 7 แถว

Q01-02 พร้อมเจ้าหน้าที่ และมัคคุเทศก์ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ

วันที่สอง/29 ธ.ค 

อัมมาน  –   อัจลุน –  เมืองพันเสา –ป้อมปราการอัมาน-อัมมาน

เช้า/กลางวัน/เย็น

00.30 น.       Q เหินฟ้าสู่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน โดยสายการบินโรยัลจอร์แดนเนี่ยล เที่ยวบินที่ RJ 183 0030 0515

เชิญท่านพักผ่อนอิสระบนเครื่องทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ  8.45 ชั่วโมง)

05.15 น.       คณะเดินทางถึง สนามบินนานาชาติ  QUEEN ALIA ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)

                        ä นำท่านเดินทางเพื่อรับประทานอาหารเช้า ณ ภัตราคาร

      เช้า                  นำท่านเดินทางไปยังเมืองอัจลุน อยู่ทางด้านเหนือของเมืองเจอราชไปเล็กน้อย เมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าต้นสน และต้นมะกอกชมปราสาทแห่งเมืองอัจลุน ถูกสร้างโดยพวกนักรบมุสลิม ในปี ค.ศ. 1184-1185 ใช้เป็นป้อมทหารในการต่อสู้รบกับพวกนักรบครูเสด และในปี ค.ศ. 1260

เที่ยง               ä รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคาร ภายในเมืองเจอราช

บ่าย                 ชม นครเจอราช (JERASH) หรือ “เมืองพันเสา”เป็นอดีต 1 ใน 10 หัว เมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ชื่อว่า ในปี ค.ศ. 749 นครแห่งนี้ได้ถูกทำลายโดยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ และถูกทรายฝังกลบจนสูญหายไปเป็นนับพันปี ชม ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียน และ สนามแข่งม้าฮิปโปโดรม นำท่านเดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม โอวัลพลาซ่า สถานที่ชุมนุม พบปะ สังสรรค์ของชาวเมือง, วิหารเทพซีอุส ฯลฯโรงละครทางทิศใต้ (สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน) ด้วยความสามารถทางสถาปัตย์ที่สร้างให้มีจุดสะท้อนเสียงตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์ เพียงพูดเบา ๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา      ชม วิหารเทพีอาร์เทมิส เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นพื่อใช้เป็นสถานที่สำหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นในนำท่านเดินเข้าสู่ ถนนคาร์โด หรือ ถนนโคลอนเนด ถนนสายหลักที่ใช้เข้า – ออกเมือง บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า, ฝาท่อระบายน้ำ, ซุ้มโคมไฟ, บ่อน้ำดื่มของม้า ชม น้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM) สร้างในราวปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้   มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้ม  ด้านบนของน้ำพุ ฯลฯ นำท่านเดินทางกลับกรุงอัมมาน

นำท่านชมเมืองหลวงอัมมาน ตั้งอยู่บนภูเขาทั้ง 7 ลูก และมีประวัติศาสตร์เก่าแก่ยาวนานกว่า 6,000 ปี ขึ้นชม  ป้อมปราการ แห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่าง ๆรอบเมือง เชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็น โรงละครโรมัน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน จุผู้ชมได้ 6,000 คน และ ตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง อันแปลกตายิ่งนัก ชม วิหารเฮอร์คิวลิส ที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี     ค.ศ. 161–180 ในสมัยโรมัน พระราชวังเก่าอุมเมยาด สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามาปกครองประเทศจอร์แดน ซึ่งภายในประกอบห้องทำงาน, ห้องรับแขก ฯลฯ

ค่ำ                   ä รับประทานอาหาร ณ ภัตราคารในโรงแรม

ã นำท่านเข้าพักโรงแรมระดับสี่ดาวมาตรฐานท้องถิ่น ณ อัมมาน DaysInn Amman Hotel หรือเทียบเท่า

 

วันที่สาม/30 ธ.ค

                                  เพตรา –  เดดซี

เช้า/กลางวัน/เย็น

07.00 น.     ä รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม – และเช็คเอ้าท์

นำท่านออกเดินทางสู่เมือง ชมเมืองเพตรา (ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/ 07) มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปีเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุครุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาว อาหรับเผ่าเร่ร่อน นาบาเทียน ในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล – ปี ค.ศ 100 และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปีค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นำโดยกษัตริย์ทราจัน และได้ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก นครเพตร้าถึงคราวล่มสลายเมื่อหมดยุคของอาณาจักรโรมันทำให้ชาวเมืองละทิ้งบ้านเมืองจากกันไปหมดทิ้งให้เมืองแห่งนี้รกร้างไปพร้อมกับการพังทลายของเมือง  หลังจากเกิดแผ่นดินไหวหลายครั้งจนสูญหายนับพันปี   จวบจนในปี ค.ศ. 1812 นักสำรวจเส้นทางชาวสวิส นาย โจฮันน์ ลุดวิก เบิร์กฮาดท์  ได้ค้นพบนครศิลาแห่งนี้ และนำไปเขียนในหนังสือชื่อ TRAVEL IN SYRIA” จนทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน นำท่าน ขี่ม้า (รวมอยู่ในค่าบริการแล้ว) ประมาณ 800 เมตรบนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมือง พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่งนำท่านเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง  SIQ เส้นทางมหัศจรรย์กว่า 1.5 กิโลเมตรที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอน น้อย ๆ และ สิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลัก ต่างๆ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆ, รูปกองคาราวานอูฐ, รูปชาวนาบาเทียน, ท่อส่งลำเลียงน้ำเข้าสู่เมือง ฯลฯ สุดปลายทางของช่องเขาพบกับความสวยงามของ มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ ( EL-KHAZNEH / TREASURY) สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อียิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลาง และ ห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวาเดิมทีถูกเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์ แต่ภายหลังได้มีการขุดพบทางเข้าหลุมฝังศพที่หน้าวิหารแห่งนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้ลงความเห็นตรงกันว่า น่าจะสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับผู้ปกครองเมือง, ใช้เป็นสถานที่ทำพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นสุสานฝังศพของผู้ปกครองเมืองและเครือญาติ  เดินชมสุสานต่างๆ ของชาวนาบาเทียน, สุสานกษัตริย์ ฯลฯ ชมโรงละครโรมัน (ROMAN THEATRE) ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลย์ได้อย่างน่าทึ่ง สันนิษฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียน ต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครอง ได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000 คน

เที่ยง               ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

      บ่าย                 จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ทะเลเดดซี เป็นจุดที่ต่ำทีสุดในโลก มีความต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20% ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ ระหว่างทางแวะซื้อสินค้าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากทะเลเดดซี (รีวาช) ตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่โรงแรม และเพลิดเพลินกับการลอยตัวในเดดซี เพื่อสุขภาพผิว เชิญทดสอบลอยตัวในทะเลเดดซี

ค่ำ                   ä รับประทานอาหาร ณ ภัตราคารในโรงแรม

ã นำท่านเข้าพักโรงแรมระดับสี่ดาวมาตรฐานท้องถิ่น ณ เดดซี Dead Sea Spa Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่สี่/31 ธ.ค

                         เดดซี-เยรูซาเล็ม-เขาเนินมะกอก-เมืองเก่า

เช้า/กลางวัน/เย็น

เช้า                  ä รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารเช้าในโรงแรม-เช็คเอ้าท์  จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่อิสราเอล

                                นำท่านเดินทางสู่ยอดเขามะกอก (Mt. Of Olive) ท่านจะได้เห็นตัวเมืองเยรูซาเล็มทั้งหมด จากจุดนี้ท่านสามารถเห็น Dome of  The Rock ได้ชัดที่สุด จากนั้นนำท่านเดินตามเส้นทางที่พระเยซูเสด็จสู่กรุงเยรูซาเลมในวันปาล์มซันเดย์  ไปยังโบสถ์ข้าแต่บิดา (PETER NOSTOR  CHURCH)  เป็นที่พระเยซูทรงสอนให้สาวก  รู้จักคำอธิษฐาน “ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้ง หลาย” ปัจจุบันมีคำอธิษฐานของพระเยซูเป็นภาษาต่างๆถึง  139  ภาษา  ติดตามผนังโบสถ์  จากนั้นนำท่านสู่โบสถ์หยดน้ำตา (DOMINUS FLEVIT) ที่พระเยซูที่ร่ำไห้แก่กรุงเยรูซาเลมที่จะต้องถูกทำลาย  ท่านจะเห็นสุสานของชาวยิว  ที่เชื่อว่าเมื่อมาเมมิยาห์เสดกลับมาครั้งที่สอง  พวกเขาจะถูกรับขึ้นไปก่อน  จากนั้นเดินทางสู่ สวนเกทเสมนี (GATSEMANE GARDEN)  ที่พระเยซูอธิษฐานกับสาวกและถูกทหารโรมันจับตัว  ในสวนนี้ยังมีต้นมะกอกเก่าแก่อีก  8  ต้น  ที่เชื่อกันว่ารากเดิมเป็นต้นมะกอกเทศ  ในสมัยพระเยซูคริสต์เจ้า

เที่ยง                       ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ภูเขาศิโยน (MOUNT OF ZION)  ชมสุสานกษัตริย์เดวิด (KING DAVID’S TOMB) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวมีมงกุฎเงินแห่งโทราซึ่งแสดงว่านี่คือ  หลุมฝังศพของกษัตริย์เดวิด  แล้วเข้าชมห้องอาหารมื้อสุดท้าย (LAST SUPPER)  ที่พระเยซูร่วมรับประทานอาหารกับเหล่าสาวกเป็นครั้งสุดท้าย   จากนั้นนำท่านสู่สถานที่ซึ่งเป็นลานที่อัครสาวกเปโตรปฏิเสธพระเยซูก่อนไก่ขัน  3  ครั้ง  ปัจจุบันเป็นโบสถ์ ST.PETER  IN GALLICANTU (อัครสาวกเปโตรชาวกาลิลี) เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์สอนใจเราทั้งหลายที่เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์  แม้แต่ผู้ที่รับเป็นอัครสาวกผู้ที่อยู่ใกล้ชิดพระเยซูคริสต์  เห็นการณ์อัศจรรย์ มากมายผ่านพระหัตถ์ของพระเยซู  แต่เมื่อเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทหารโรมันจะมาจับตัวไปขัง  แม้แต่ท่านเปโตรยังปฏิเสธว่าไม่รู้จักพระเยซู  เพื่อเอาตัวรอดจากการจับกุม  หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองเก่าเยรูซาเล็ม ( Old City ) เดินเท้าต่อสู่วัดนักบุญอันนา St. Anne Church ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นบ้านของ ยออาเกิมและอันนาซึ่งเป็นที่กำเนิดของแม่พระ และชมสระเบธไซดา ( Pool of Bethsoda ) ในอดีตมีน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถรักษาโรคได้เดินต่อเข้าสู่ถนนแห่งการเดินรูป 14 ภาค เวียโดโลโรซา (Via Dolorosa) มรรคาศักดิ์สิทธิ์เดินรูป 14 ภาคตามถนนนี้ สถานที่ 1-2 อยู่ในป้อมอันโตเนีย สถานที่ 3- 9 อยู่บนถนนสายนี้มี ป้ายระบุไว้ ที่เหลือ 10-14 อยู่ในวัดพระคูหาศักดิ์สิทธิ์ พระเยซูเจ้าทรงแบกกางเขนจากวังปิลาโต จนถึง พระคูหาศักดิ์สิทธิ์ (Holy Sepulchre) ซึ่งพระองค์ได้ถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขนบนเนินเขากัลวารีโอ แล้วเข้าชมคูหาฝังพระศพของพระเยซูเจ้า เส้นทางที่พระเยซูถูกไต่สวนที่ศาลปรีโทเรีย จนถูกบังคับให้แบก ไม้กางเขนไปสู่โกลโกธาและตรึงพระองค์ไว้บนกางเขนซึ่งปัจจุบันเป็นโบสถ์แห่งศาสนาคริสต์(Church of The Holy Sepulcher)ท่านชม กำแพงแห่งการร้องไห้ (Wailing Wall) เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวที่ยังหลงเหลืออยู่ ข้าง  กำแพงแห่งนี้มีวัดบนภูเขาโมรีอา ซึ่งเป็นสักการะสถานศักดิ์สิทธิ์ของ 3 ศาสนาที่นับถือพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว สำหรับชาวยิวเป็นสถานที่ซึ่งพระวิหารอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาตั้งอยู่ สำหรับชาวคริสต์เป็นสถานที่มีความผูกพันกับเหตุการณ์หลายอย่างในพระชมน์ชีพของพระเยซูเจ้าและสำหรับชาวมุสลิมเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันดับ 3 ต่อจากเมกะ และ เมดีนา

หมายเหตุ Dome of the Rock และ สุเหร่าอัลอักซา เข้าได้เฉพาะคนมุสลิมเท่านั้น / โปรแกรมสามารถทำได้แต่ขึ้นอยู่กับเวลาทำการของแต่ละสถานที่

ค่ำ                ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

ã นำท่านเข้าพักโรงแรมระดับสี่ดาวมาตรฐานท้องถิ่น ณ เยรูซาเล็ม Grand Court Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า/01 ม.ค

    เยรูซาเล็ม-อินคาเล็ม-เบธเลเฮ็ม-เทลอาวีฟ-จัฟฟา-เยรูซาเล็ม

เช้า/กลางวัน/เย็น

เช้า                  ä รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารเช้า จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ปาเลสไตน์

นำท่านเดินทางสู่ Ein Karem ชมอนุสรณ์สถาน Yad Vachem ที่สร้างเพื่อระลึกถึงชาวยิวที่เสียชีวิตในระหว่างสงครามโลก รูปถ่ายจากค่ายกักกันต่างๆในยุโรป แสดงให้เห็นความโหดร้ายของทหารนาซีที่พยายามล้างเผ่าพันธุ์ของชนชาติอิสราเอลซึ่งเป็นชนชาติของพระเจ้า ทำให้เราตระหนังถึงพระสัญญาที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพระเจ้าต่ออับราฮัม

นำท่านเดินทางข้ามเขตแดนเยรูซาเล็มสู่เมืองเบธเลเฮ็ม Bethlethem ระยะทาง 10 กม. อยู่ทางตอนใต้ของเมืองเยรูซาเล็ม ดินแดนที่ครอบครองโดยปาเลสไตน์ ทุ่งหญ้าคน เลี้ยงแกะ(Sheperd’s Field) ที่ทูตสวรรค์มาบอกข่าวการประสูติของพระเยซูแก่คนเลี้ยงแกะ จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ Ancient Church ชมดาวเงินภายในถ้ำเพื่อระลึกถึงการบังเกิดของพระคริสต์เจ้า ซึ่งสร้างครอบสถานที่ประสูติของพระเยซู เป็นสถานที่ที่ถูกเก็บรักษาให้รอดพ้นจากการถูกทำลายจากผู้ครอบครองชาติแล้วชาติเล่าอย่างน่าอัศจรรย์ ชมวัดถ้ำน้ำนม (Milk Grotto) เป็นวัดที่นักบุญโยเซฟพาแม่พระและพระกุมาร หลบหนีมาพักอาศัยชั่วคราว ก่อนจะหนีไปประเทศอียิปต์ ในช่วงที่กษัตริย์เฮรอด สั่งฆ่าเด็กทารกทุกคน ที่นี่แม่พระให้นมพระกุมาร และน้ำนมหยดลงบนพื้น จึงทำให้หินที่ถ้ำนี้เป็นสีขาว

เที่ยง                   ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางไปเมืองจัฟฟา Jaffa เมืองท่าเรือที่อยู่ทางตอนใต้ของเทล เอวีฟ ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดอีกเมืองหนึ่งที่ซึ่งท่านจะได้ชมซากปรักหักพังโบราณ ชื่อเดิมของเมืองนี้คือ Yafo ในภาษาฮิบรู แปลว่าสวยงาม ซึ่งหมายถึงเมืองและวัฒนธรรมด้วย ประวัติศาสตร์ของเมืองนี้ถูกครอบครองมาหลายต่อยุคหลายสมัย ในปี ค.ค. 1799 ถูกครองครองโดยนโปเลียน และถูกนำมาสร้างใหม่ ในศตวรรษที่ 19 ยุคออตโตมัน จนถึงยุคที่อังกฤษยึดครอง และในปี 1948 ได้กลับมาเป็นของอิสราเอล ชมตัวเมืองเก่าซึ่งเกิดจากการขุดลงไปใต้ดินจนพบบ้านเมืองสมัยโบราณ และเหล่าบรรดาศิลปินหลายแขนงได้ตกแต่งใหม่ใช้เป็นที่พักอาศัยและทำงานด้านศิลปะ จานั้นนำท่านสู่ห้องสรรพสินค้าถนนคนเดินกลางแจ้งที่พร้อมไปด้วยนักดนตรี เครื่องรประดับทำด้วยมือ ซึ่งเติมไปด้วยสีสันและชีวิตชีวา ร้านค้าและคาเฟ่

ค่ำ                       ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

   ã นำท่านเข้าพักโรงแรมระดับสี่ดาวมาตรฐานท้องถิ่น ณ เยรูซาเล็ม Grand Court Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่หก/02 ม.ค

       เยรูซาเลม--เจอริโค-เม้าทเนโบ-มาดาบา-อัมมาน

เช้า/กลางวัน/เย็น

เช้า                  ä รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารเช้าในโรงแรม-เช็คเอ้าท์ 

จากนั้นนำท่านสู่เมืองเจอริโค ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในโลก รู้จักกันในนาม Tel Al Sultan ปัจจุบันคงเหลือให้เห็นซากกำแพงเมืองเก่า และหินที่มีอายุหลายพันปีมาแล้ว เมืองนี้ถูกทำลายในช่วงที่โยชูวาเป็นผู้นำชาวอิสราเอล และถูกสร้างขึ้นใหม่บนฝั่งวาดิ ในยุคที่ปกครองโดยเฮสโมเนียน และกษัตริเฮโรด จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าไฟฟ้า ชมภูเขาแห่งการประจญล่อลวง ชมวัด St. George Church ของนิกายกรีกออร์โธดอกซ์บนยอดเขา

จากนั้นนำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่จอร์แดน

เที่ยง               ä รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางสู่ เมาท์ เนโบ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขาซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิวส์เดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเลม ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายใจเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สำคัญคือภาพที่ โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู   (เชิญถ่ายรูป ณ จุดชมวิว)               โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้ำจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก  และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน

นำท่านเดินทางสู่เมือง มาดาบา หรือเมืองแห่งโมเสก  เข้าชม โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ สร้างขึ้นช่วงระหว่างศตวรรษที่ 6 ในยุคของไบแซนไทน์ ชม ภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ที่อยู่บนพื้นโบสถ์แห่งนี้ และถูกตกแต่งโดยโมเสกสี ประมาณ 2.3 ล้านชิ้นแสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น เยรูซาเลม, จอร์แดน, ทะเลเดดซี, อียิปต์ ฯลฯ

อิสระช็อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ

ค่ำ                   ä รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านสู่ สนามบิน

วันที่เจ็ด/ 03 ม.ค

                           สนามบินสุวรรณภูมิ

-/-/-

02.10 น.       Qออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย ด้วยสายการบิน โรยัลจอร์แดนเนี่ยล เที่ยวบินที่ RJ 180 0210 1515

15.15 น.       เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพและความประทับใจ มิรู้ลืมเลือน

 

กำหนดการเดินทาง 56 (คณะ20ท่าน)

ระดับที่พัก

พักคู่

พักเดี่ยวเพิ่ม

พัก 3 ท่าน

( เสริมเตียง )

28DEC-03JAN 13

  4 Deluxe

66,500

9,500

66,500

เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง

  1. กรุณาจองล่วงหน้าอย่างน้อย 40 วันก่อนการเดินทาง พร้อมชำระงวดแรก 10,000 บาท / ท่าน และส่งมอบเอกสารการเตรียมการยื่นขอวีซ่าตามที่กำหนด ***
  2. ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการออกตั๋ว 20 วันก่อนการเดินทาง เนื่องจากจะต้องใช้ในการออกตั๋วเครื่องบินและเอกสารต่างๆ เพื่อยืนยันการเดินทาง ในการประกอบการพิจารณาวีซ่าของทางสถานทูต
  3. กรณียกเลิกการเดินทางภายใน 30 วัน บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องขอหัก 50 % ของค่าทัวร์

6.กรณียกเลิกกะทันหันก่อนการเดินทางไม่เกิน 17 วัน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินเต็ม ของค่าทัวร์

หมายเหตุ

1.บริษัทไม่มีนโยบายยกเลิกทัวร์ในกรณีที่ไม่ครบ 15 ท่าน จะไม่มีหัวหน้าทัวร์เดินทางด้วย แต่มีเจ้าหน้าที่ที่จอร์แดน

2.บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุจำเป็นสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้และจะไม่รับผิดชอบใดๆ ในกรณีที่สูญหาย สูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บที่นอกเหนือความรับผิดชอบของหัวหน้าทัวร์

3.เนื่องจากรายการทัวร์นี้เป็นแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จ หากท่านสละสิทธิ์การใช้บริการใดๆตามรายการ หรือ ถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนเงินในทุกกรณี

5.กำหนดการเดินทางอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เพื่อความเหมาะสม ทั้งนี้ทางบริษัทฯ จะยึดถือผลประโยชน์ ตลอดจนความปลอดภัยของคณะผู้เดินทางเป็นสำคัญ     

view